
วัดนางเหล้านับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในการเดินทางมาเยือนหรือกลับมาเยือนซ้ำ ซึ่งภายในวัดมีการแบ่งสัดส่วน ดูสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีของชุมชนและท้องถิ่นและยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและประติมากรรม สร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก

สำหรับวัดนางเหล้า หรือนางลาว ตั้งอยู่บ้านนางเหล้า ถนนเขาแดง-ระโนด หมู่ที่ 3 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา บนเนื้อที่ 18 ไร่ มีกำแพงวัดทั้ง 4 ด้านเป็นอาณาเขต ซึ่งวัดนางเหล้าหรือวัดนางลาวสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. ปี 2225 โดยมีอุบาสิกาชื่อนางลาว มีจิตศัทธาบริจาคที่ดินและสร้างวัด แต่เดิมชื่อวัดนางลาว ตามชื่อผู้บริจาคที่ดินและสร้างวัด ต่อมาชาวบ้านเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็นวัดนางเหล้า จากนั้นปี พ.ศ.2538 ได้มีการขออนุญาตต่อกรมการศาสนาขอเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า วัดลาวัณย์วราราม (มีความหมายว่าวัดมีความงามอันยอดเยี่ยม) แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาตามที่เสนอขอเปลี่ยนชื่อวัด

ทั้งนี้ภายในวัดนางเหล้ายังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามโครงการพัฒนาหอวัฒนธรรมนิทัศน์ แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ 2553 ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมตำบลชุมพล ที่ครอบคลุมวิถีชีวิตของชุมชนอย่างครบวงจร

ได้แก่ 1.ห้องสมุดชุมชนตำบลชุมพล (ห้องสมุดวิเทศธรรมนาถ) สถานที่เก็บรวบรวมหนังสือ เอกสาร งานวิจัยในท้องถิ่น เอกสารทางวิชาการและเอกสารอื่นๆ สำหรับศึกษาหาความรู้และค้นคว้าข้อมูลข่าวสารและ 2. พิพิธภัณฑ์ชุมชนตำบลชุมพล ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมวัตถุโบราณ เครื่องมือ เครื่องใช้เก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน เพื่อจัดแสดงให้เยาวชนและประชาชนได้เข้าไปเยี่ยมชม ศึกษาหาความรู้ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เปิดให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าไปศึกษาหาความรู้

อีกทั้งพื้นที่บริเวณใกล้เคียงวัดนางเหล้ายังมีแหล่งเรียนรู้ย่อยที่กระจายอยู่พื้นที่โดยรอบเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาหาความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านต่างๆ ได้แก่ 1.แหล่งเรียนรู้ทางศิลปะไทย ที่จัดแสดง สาธิตและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านศิลปะ ทั้งด้านจิตรกรรม การเขียนภาพฝาผนัง การเขียนภาพลงบนผืนผ้าใบ การเขียนภาพลายผ้า และการเขียนภาพต่างๆ การปั้น การแกะสลักและการหล่อพระพุทธรูป

2. แหล่งเรียนรู้ด้านการประกอบอาชีพทางวัฒนธรรม ได้แก่ แหล่งเรียนรู้การประกอบอาชีพ ทำกระเบื้องดินเผา (โรงทำกระเบื้องดินเผาเกียรติสุวรรณ) ที่มีการจัดแสดงและสาธิตการทำกระเบื้องดินเผา ได้แก่ กระเบื้องสุโขทัย กระเบื้องเกล็ดปลา กระเบื้องโบราณหลายแหลมและอื่นๆ มีทั้งแบบเคลือบสีและแบบธรรมชาติและแหล่งเรียนรู้การประกอบอาชีพ ตาลโตนดครบวงจร (โรงทำน้ำตาลแว่นบ้านคลองฉนวน) ที่จัดแสดงและสาธิตการทำน้ำตาลแว่นและวิถีชีวิตการประกอบอาชีพจากตาลโตนด และ 3.แหล่งเรียนรู้ทางโบราณคดีที่สำคัญ ได้แก่ แหล่งเรียนรู้โบราณสถานวัดพะโคะและแหล่งเรียนรู้ชุมชนโบราณเขาคูหานั้นเอง
ขอบคุณข้อมูล : สำนักกรมประชาสัมพันธ์สงขลา ภาพ : คุณสุนันท์ แซ่แต้
ในรอยจะนะ : "วังเก่า ช้างเจ้าเมือง และเหมืองสามคด”
26 ตุลาคม 2568 | 415เรื่องเล่าขนหัวลุก...คืนมืดบนทางหลวงสายเอเชีย เมื่อเงาไม่ใช่เพียงภาพลวงตา
26 ตุลาคม 2568 | 379ย้อนชมภาพ “คู่พระบารมีแห่งแผ่นดิน” เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ เสด็จเยือนสงขลาครั้งแรก
26 ตุลาคม 2568 | 623เทศกาลกินเจหาดใหญ่ : มรดกแห่งศรัทธาชาวไทยเชื้อสายจีน
19 ตุลาคม 2568 | 639"ขุนพลแก้ว" ที่มาชื่อค่าย "รัตนพล" ขุนพลผู้กล้า เสียสละ และมีความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง
19 ตุลาคม 2568 | 748ตำนานผีหลังกลวง : ผีหวงของแห่งถ้ำม้างอน ต.นาทับ
19 ตุลาคม 2568 | 827วัดโพธิ์ วัดเก่าแก่สมัยกรุงธนบุรี จุดศูนย์กลางของผู้คนในอดีต
12 ตุลาคม 2568 | 610