
ชุมชนวัดแหลมทราย เป็นชุมชนดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในชุมชนในอดีตล้วนแต่ประกอบอาชีพประมง เนื่องจากชุมชนแหลมทรายนั้นเป็นแหลมที่ยื่นลงไปในทะเลสาบ ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้สร้างบ้านพักที่อยู่อาศัยริมน้ำทะเลสาบต่อมาจึงได้ตั้งเป็นชุมชนและได้ตั้งวัดแหลมทรายขึ้นมา ซึ่งชาวบ้านมีความผูกพันกับวัดและศรัทธามาเป็นเวลาช้านาน เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้ทิ้งระเบิด4 ลูกทางเครื่องบินลงมาหน้าประตูวัดด้านทิศตะวันออกและหลังวัดด้านทิศตะวันตก

แต่ลูกระเบิดดังกล่าวด้านและยังไม่ได้เก็บกู้จนถึงปัจจุบันนี้ ภายหลังทราบว่าเจ้าอาวาสในขณะนั้น คือ พระราชรัตนโมลี/เส้งได้ฝังพระกริ่งโสฬส ทั้ง 4 มุมของวัด ทำให้ระเบิดด้านชาวบ้านปลอดภัยทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครอง นอกจากนี้ในอดีตชุมชนแหลมทรายเป็นชุมชนที่ได้คิดริเริ่มงานประเพณีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมากมาย เช่น ประเพณีตักบาตรเทโว งานกาชาด ประเพณีงานสงกรานต์ เป็นต้น หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงบ้านเรือนที่อยู่อาศัยมาเรื่อยๆ เกิดบ้านเช่าทำให้ความสัมพันธ์ของคนในชุมชนเริ่มมีความห่างเหินกัน ความร่วมมือของคนในชุมชนเริ่มลดลงตามสภาพ คนในชุมชนรุ่นหลังก็แต่งงานออกไปอยู่ที่อื่น คงเหลือแต่ชาวบ้านดั้งเดิมที่เป็นคนรุ่นก่อนส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทำให้ประเพณีต่างๆเลือนหายไป

โดยประเพณีวัฒนธรรมที่ได้มีการรื้อฟื้นกลับมาใหม่ ก็จะมี ประเพณีทำบุญกลางบ้าน จัดขึ้นพร้อมประเพณีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ จัดขึ้นในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม มีการอันเชิญรูปเหมือนหลวงพ่อภักดิ์หรือพระครูอดุลธรรมรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลมทราย เพื่อทำการแห่รอบวัดแหลมทราย หลังจากนั้นจะมีการสรงน้ำรูปเหมือนหลวงพ่อภักดิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลมทราย และช่วงบ่ายจะมีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ขอพรผู้สูงอายุ ช่วงค่ำจะมีการจัดมโหรศพรื่นเริงเล็กน้อย ซึ่งขบวนจะแห่รอบเมือง เหมือนหลวงพ่อภักดิ์หรือพระครูอดุลธรรมรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลมทราย ในอดีต มีความสวยงามยิ่งใหญ่ ผู้คนพร้อมใจกันแต่งกายประจำชาติและเดินขบวนกันอย่างพร้อมเพรียง ทำให้เกิดความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง และปัจจุบันประเพณีทำบูญกลางบ้านจัดขึ้นพร้อมประเพณีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ทำพิธีขอขมา และ ขออโหสิกรรม แก่ผู้สูงอายุ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คนในชุมชน

และประเพณีแห่เทียนพรรษในอดีตจะมีความสวยงามอย่างยิ่ง ผู้หญิงแหลมทรายร่วมใจกันแต่งกายอย่างสวยงามและเดินขบวนแห่เทียนพรรษาอย่างงดงามและในปัจจุบันการแห่เทียนพรรษา มีความสวยงามไม่แพ้ขบวนแห่เทียนพรรษาในอดีต มีการประดับตกแต่งเทียนพรรษาในรูแบบต่างๆอย่างสวยงาม มีขบวนกลองยาวอย่างสนุกสนานครื้นเครง

รวมถึงการรื้อฟื้นตีกลองยาว ในอดีตชุมชนแหลมทรายมีคณะกลองยาวแหลมทราย อันลือเลื่องที่เป็นที่รูจักกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดสงขลา เป็นคณะกลองยาวประจำชุมชน ปัจจุบันผู้คนในชุมชนแหลมทรายไม่มีใครตีกลองยาวเป็น แต่ประธานชุมชนคนปัจจุบันได้พยายามให้มีคณะกลองยาวประจำชุมชนอีกครั้ง จึงได้มีการจัดซื้อกลองยาวไว้เป็นของชุมชนและจัดให้มีบุคคลจากคณะกลองยาวจากที่อื่นเข้ามาสอนการตีกลองยาวให้กับคนในชุมชน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : oknation.nationtv ตามติดชีวิตชาวบ้าน โดยคุณ Bingsoogogi
พาชมวิวทะเลหมอก 360 องศา ณ ยอดเขาเล่ อันซีนเมืองสะเดา ต้อนรับหน้าฝนปี2025
16 พฤศจิกายน 2568 | 315ตำนานจระเข้ผู้พิทักษ์ : วิถีคนทะเลสาบสงขลาแห่งบ้านอ่าวทึง อ.ควนเนียง
16 พฤศจิกายน 2568 | 2,851แม่ย่านางเรือศรีสไบ แห่งวัดสันติวรคุณ ตำนานเรือโบราณผุดกลางสวนยาง (สะเดา)
16 พฤศจิกายน 2568 | 332ต้นแบบโบสถ์พอเพียง : "อุโบสถดิน" แห่งแรกและแห่งเดียวในภาคใต้ ณ วัดสันติวรคุณ (สะเดา)
9 พฤศจิกายน 2568 | 392“สำนักสงฆ์เกาะโอน” อ.สะเดา สถานที่สงบกลางป่า กับตำนานทวดเขาวังชิง ผู้ศักดิ์สิทธิ์
9 พฤศจิกายน 2568 | 402พาชมฟาร์มของแม่ : จากพระเมตตาสู่ความยั่งยืนของชุมชน ฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ อ.คลองหอยโข่ง
4 พฤศจิกายน 2568 | 449ในรอยจะนะ : "วังเก่า ช้างเจ้าเมือง และเหมืองสามคด”
26 ตุลาคม 2568 | 771เรื่องเล่าขนหัวลุก...คืนมืดบนทางหลวงสายเอเชีย เมื่อเงาไม่ใช่เพียงภาพลวงตา
26 ตุลาคม 2568 | 560