มาย้อนวันวานในอดีตกับเรื่องราวชุมชนเก่าแก่ ที่ชาวสงขลาคงต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี "สวนพระเทศ" เป็นชุมชนแห่งหนึ่งใน ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งปัจจุนปันกลายมาเป็นถนนวุฒิภูมิทั้ง2ซอย เมื่อราวๆปี พ.ศ. 2515 ถนนวุฒิภูมิ ทั้ง2ซอย เมื่อก่อนเรียกว่า สวนพระเทศฯเป็นละแวกเก่าที่หนึ่งของเมืองสงขลา ชื่อนี้เรียกกันมาตั้งแต่รัชสมัย รัชกาลที่ 6
(รูปถ่ายทางอากาศ เมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ. 2517)
โดยเมื่อก่อนเคยเป็นที่ดินของพระนิเทศโลหสถาน,(วูดฮัล วุฒิภูมิ) ประวัติ ของพระนิเทศโลหสถาน "พระเทศฯ" เป็นราชทินนามและบรรดาศักดิ์ของข้าราชการไทยที่สัญชาติบิดาเป็นสิงหล แบบเดียวกับพระยาอรรถการประสิทธิ์ นักกฎหมายอดีตอธิบดีกรมอัยการ คุณพระเทศฯของชาวสงขลาท่านผู้นี้มีราชทินนามเต็มว่า "พระนิเทศโลหสถาน" คุณพระท่านมีนามเดิมว่า "วูดฮัล" ท่านเกิดเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2423 พระเทศฯรับราชการในสังกัดกรมราชโลหะกิจราวช่วงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อเนื่องกับช่วงต้นรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ประมาณนี้้ คุณพระเป็นชายผิวคล้ำร่างใหญ่
(รูปของ พระนิเทศโลหสถาน,วูดฮัล วุฒิภูมิ)
ต่อมาราชการไทยส่งคุณพระมารับราชการที่สงขลา ในตำแหน่งข้าราชการวิสามัญโลหะกิจจังหวัด ทำหน้าที่กำกับดูแล และตรวจตรากิจการแร่ของสงขลา คุณพระเทศฯจึงเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของเมืองสงขลาชั้นแรกที่ย้ายมารับราชการที่สงขลา ท่านเช่าตึกสามชั้นหลังใหญ่เป็นที่พำนัก ตึกหลังนั้นตั้งอยู่ที่หัวมุมด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตรงที่ถนนนางงามตัดกับถนนปัตตานี คุณพระเป็นข้าราชการที่รักการอ่านและรักการศึกษาค้นคว้า ขณะรับราชการที่บ้านเราท่านมีที่สวนใหญ่แปลงหนึ่งที่
(บ้านต้นตระกูล วุฒิภูมิ ถ่ายในเดือน ธ.ค. 2559)
สวนของท่านตั้งอยู่ระหว่างวัดชัยมงคลกับวัดเพชรมงคล และอาจกินอาณาบริเวณไปทางด้านหลังวัดด้วย วัดชัยมงคลเดิมชื่อว่า "วัดโคกเสม็ด" ส่วนวัดเพชรมงคลเดิมชื่อว่า "วัดโคกขี้หนอน" คุณพระมีลูกหลานที่สงขลาหลายคน และทายาทของท่านบางคนเติบโตขึ้นมีหน้าที่การงานทางด้านการแพทย์ สกุลของคุณพระเทศฯนั้นคือ "วุฒิภูมิ" ซึ่งก็คือชื่อถนนสองสายที่ตั้งอยู่ระหว่างวัดชัยมงคลและวัดเพชรมงคลดังกล่าวข้างต้น ประมาณช่วงปลายรัชกาลที่ ๗ คุณพระนิเทศฯได้ออกจากราชการ จะออกเพราะ "ถูกดุลฯ" หรือลาออกของท่านเองไม่แน่ชัด แต่หลังจากหมดสิ้นภาระราชการแล้ว ท่านก็ตั้งรกรากอยู่ที่สงขลา
จากคำบอกเล่าของ นางสุนิสาห์ สุกสี อายุ 54ปี ถนนวุฒิภูมิเมื่อก่อนมีต้นไม้มากมาย มีบ้านอยู่เพียงไม่กี่หลัง และเมื่อก่อนสงขลาเป็นแค่เมืองเล็ก ๆ ซึ่งผู้คนส่วนมากอาศัยอยู่ที่ ถนนนครนอกนครใน สมัยนั้นยังมีรถไฟวิ่งอยู่ แถว ๆ วชิรา ตามแนวชายฝังทะเล และบ่อนวัวยังเป็นแค่ป่า และพื้นที่ลานกว้าง ช่วงนั้นยังไม่มีถนนหนทางสะดวกเหมือนตอนนี้ ถนนเป็นแค่ดินทราย ดินแดง ผู้คนแถวถนนวุฒิภูมิ ส่วนมากทำอาชีพรับจ้างค้าขายในตลาดเมืองสงขลา มีน้อยคนที่จะรับราชการ
(อ้างอิงจากhttps://th.wikipedia.org/wiki/มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย)
ต่อมาในช่วงที่วิทยาลัยเทคนิคภาคใต้ซึ่งวิทยาลัยการช่างชั้นสูงของภาคใต้แห่งนี้ในขณะนั้น ซึ่งกลายมาเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยในปัจจุบัน ประวัติของ วิทยาลัยเทคนิคภาคใต้จัดตั้งขึ้นเป็นเป็นสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2518 โดยพระราชบัญญัติวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา พ.ศ. 2518 ใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา”
(แผนที่และอาคารวิทยาลัยเทคนิคภาคใต้)
และโอนวิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยเกษตรกรรม และวิทยาลัยต่างๆ ในสังกัดกรมอาชีวศึกษาเข้ามาสังกัด ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “ราชมงคล” เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2531 (วันราชมงคล) พร้อมทั้งมีพระราชบัญญัติเปลี่ยนชื่อวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2532 ทำให้วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล" กระทั่งเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 พระราชบัญญัติ จัดตั้งให้เป็น "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล"
จากคำบอกเล่าของ นาง คลิง สงขวัญ อายุ 84 ปีตอนสมัยวิทยาลัยเทคนิคภาคใต้ กำลังโด่งดังมีนักเรียนนักศึกษาเก่งๆมากมาย ทำให้เกิดการพัฒนาในจังหวัดสงขลาอย่างมาก เริ่มมีการสร้างที่อยู่อาศัยที่ ถนนวุฒิภูมิ ชุมชนวชิรามากขี้น จนเป็นชุมชนใหญ่ และช่วงนั้นเป็นช่วงที่สถานนีรถไฟสงขลาได้ปิดตัวลง ทำให้ที่พักรถไฟและชานชาลารถไฟ เป็นพื้นที่ว่าง ทำให้ผู้คนหลังไหลเข้ามาจองพื้นที่เป็นจำนวนมากจึงกลายมาเป็นชุมชนบ่อนวัว
ปัจจุบันถนนวุฒิภูมิเป็นถนนคับแคบไม่ค่อยทำการค้าขายได้มาก แต่ถนนวุฒิภูมิ มีถนนชัยมงคล ถนนวชิรา อยู่รอบข้างทำให้สะดวกสบาย มีร้านอาหารมากมาย และยังเป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนวชิราและถนนชัยมงคล ทำให้มีการจารจรที่แออัดในช่วงเร่งด่วน คนในชุมชนเป็นผู้สูงอายุซะส่วนมาก มีนักเรียนนักศึกษา มหาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มาอาศัยเช่าพักอยู่ จึงทำให้ชุมชนนี้มีหอพัก บ้านเช่าเป็นจำนวนมาก และมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ
ขอบคุณภาพข้อมูล : oKnationtv , nokorntussaro.blogspot.com , th.wikipedia.org/wiki/มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
เปิดประวัติชุมชนชายแดน บ้านควนไม้ดำ สู่บ้านไทย-จังโหลน
31 สิงหาคม 2568 | 289ย้อนรอยชุมชนประวัติศาตร์บ้านโคกเมือง และตำนานทวดหลักเมือง (ควนเนียง)
31 สิงหาคม 2568 | 347จากรากเหง้าสู่ปัจจุบัน : สัมผัสวิถีชีวิตคนโนด ผ่านพิพิธภัณฑ์เมืองระโนด
31 สิงหาคม 2568 | 320“โรงเรียนช่างตัดเย็บเสื้อผ้าสงขลา” สู่วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา
24 สิงหาคม 2568 | 584ชุมชนท่องเที่ยว "บ้านหัวนอนวัด" ชุมชนคุณธรรม จิตรกรรมล้ำค่า ศาลาร้อยปี
24 สิงหาคม 2568 | 762ตำนานสิทธิเรือรี สู่ชื่อตำบลคลองรี อ.สทิงพระ
24 สิงหาคม 2568 | 757ข้าวดอกราย อาหารพื้นบ้านของคนสะกอมสมัยเริ่มก่อตั้งชุมชน
17 สิงหาคม 2568 | 776ย้อนภาพเก่าเล่าเรื่องอดีต...วิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา
17 สิงหาคม 2568 | 3,166