เรื่องราวตำนานเซียนพระ การพิสูจน์อยากเจอของดีได้ปรากฎขึ้น เมื่ออาจารย์ชุม ไชยคีรี บุกไปพิสูจน์ที่วัดห้วยลาด อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตามประวัติหลวงปู่มั่น ท่านไม่ได้เป็นชาวสงขลา แต่เป็นคนเพชรบุรี เมื่อบวชเรียนแล้ว ได้ไปธุดงค์ตามที่ต่าง ๆจนมาถึงรัตภูมิ ชาวบ้านมีความเลื่อมใส จึงนิมนต์ให้ท่านสร้างวัดท่านจึงเห็นดีเห็นงามด้วย จึงเป็นกำเนิดก่อให้เกิดวัดห้วยหลาด ตอนแรกก็สร้างเพียงกฎิเล็ก ต่อมาจึงเริ่มสร้างศาลาและอุโบสถ แต่หลวงปู่สีมั่นท่านไม่ยอมรับตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านจึงนิมนต์พระองค์อื่นมาเป็นเจ้าอาวาส แสดงให้ถึงความไม่ยึดติด
และต่อมาหลังจากที่ท่านมรณภาพไปแล้ว วัดแห่งนี้ก็กลับมาเป็นวัดธรรมดา มีเจ้าอาวาสอีกหลายรูป แต่เมื่อปี 2496 พระอธิการขาวอยู่ ๆ เกิดโรคประหลาดขึ้นกล่าวคืออยู่ ๆ ก็มึนหัว เป็นลมบ่อยมากถึงขั้นสลบไปเป็นวัน ๆ จนถึงวันพระมีการสวดปาฎิโมกข์ พระอธิการขาวจะต้องเป็นคนทวนปาฎิโมกข์ เกิดอาการเวียนหัว จึงร้องขอให้รองเจ้าอาวาสเป็นคนทวนแทน เมื่อพระออกจากโบสถ์เห็นสามเณรวิ่งกันวุ่น
จึงเรียกมาถาม ก็ได้ความว่าพระอธิการขาว เป็นลมสลบไป พระทั้งหมดจึงเข้าไปที่กุฎิพระอธิการขาว เห็นท่านนอนสลบอยู่ สักพักเดียว ก็ได้ยินเสียงพระอธิการขาวพูดว่า นำจีวรกับสังฆาฏิมาให้ที แต่เสียงที่พูดไม่ใช่เสียงพระอธิการขาว แต่เป็นเสียงห้วน ๆ ใหญ่ ๆ สักพักท่านจึงลุกขึ้นมานั่ง มีลักษณะดังรูปที่ลง แล้วท่านก็บอกว่าท่านคือหลวงปู่สีมั่น เทพอินโท ที่มาเข้าพระอธิการขาว เพราะอยากจะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนทั้งหลาย และจะรักษาคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย
เมื่อข่าวเรื่องหลวงปู่สีมั่นเผยแพร่ออกไป ก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาหาที่วัดห้วยหลาด มาขอให้ช่วยเรื่องราวต่าง ๆ เช่นรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือช่วยเหลือเรื่งอื่น ๆ มีบางคนมาขอในส่วนของเครื่องรางของขลัง ขอท่านเพียงแค่ว่า อยากได้ของเหนียว ๆ ท่านก็ได้บอกว่า ของหนังเหนียวเอาไปทำไมมันทำให้เจ็บตัว ให้เอามาแบบแคล้วคลาดดีกว่าไม่เจ็บตัว เมื่อคนนั้นได้ของไป ได้เอาไปลองยิง ยิงเป็นสิบนัดก็ไม่โดน
สมัยนั้นเอง อ.ชุม ไชยคีรี มาตั้งสำนักที่ภาคใต้ ได้ยินเสียงเล่าลือ ชื่อของหลวงปู่สีมั่น จึงอยากลองไปพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า จึงนัดแนะกับลูกศิษย์ไปที่วัดห้วยหลาดเมื่อเดินทางไปถึงวัดแล้ว อ.ชุมไม่ได้แสดงตัว แต่แอบซุ่มอยู่ข้างหลังกลุ่มคนที่มาหาเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจปิดบังหลวงปู่สีมั่นได้ ท่านได้พูดขึ้นมาว่า วันนี้มีคนดีมีวิชา จะมาดูหลวงปู่ว่าเป็นของจริงหรือเปล่า แล้วไปแอบอยู่ข้างหลังทำไม อ.ชุมจึงขยับตัวเข้าไปข้างหน้า และทำการกราบกรานท่าน เพราะเชื่อแล้วว่าเป็นของจริง และว่ากันว่าอ.ชุมได้มาเรียนวิชาท่านไปไม่น้อย และขุนพันธ์ก็คืออีกคนในนั้น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : www.partiharn.com
ชมภาพเก่าเมื่อ 89 ปีก่อน โรงงานแป้งสาคู ณ บ้านคลองแงะ (สะเดา)
13 กรกฎาคม 2568 | 128กว่า 161 ปี สุเหร่าบ้านพรุหมาก มัสยิดแห่งแรกของอำเภอเทพา
13 กรกฎาคม 2568 | 117ย้อนประวัติเรือพัทลุง เรือที่ใช้ติดต่อราชการระหว่างเมืองสงขลา-เมืองพัทลุง
13 กรกฎาคม 2568 | 125กัปตันวอสเบียน : ผู้ให้กำเนิดจักรยานพ่วงข้างคันแรกของปักษ์ใต้ ณ เชิงเขาตังกวน (สงขลา)
6 กรกฎาคม 2568 | 2,085ที่มาชื่อบ้านท่าช้าง อ.บางกล่ำ ย้อนรอยชม "เสาหงส์" ครั้งพม่ายกทัพตีหัวเมืองภาคใต้
6 กรกฎาคม 2568 | 383ย้อนตำนานเมื่อครั้งอดีต วงเวียนแยกหลาลุงแสง 3 ยุคสมัย 3 รูปแบบ
6 กรกฎาคม 2568 | 6,181ย้อนชมภูมิปัญญาการทำขวัญข้าว สู่การสร้างวงเวียนพระแม่โพสพ ศูนย์รวมจิตใจชาวระโนด
8 มิถุนายน 2568 | 1,206เปิดที่มาชุมชนประวัติศาสตร์ บ้านควนจง (นาหม่อม)
8 มิถุนายน 2568 | 1,336