รถเมล์สีเขียวยี่ห้อเบ็นซ์
รถเมล์สายหาดใหญ่ - สงขลา
เคยให้บริการครั้งสุดท้ายเมื่อราวๆเกือบ 10 ปีที่แล้ว
คันไหนเปิดเพลงดังเพลงมันส์ คันนั้นจะแน่นเป็นพิเศษ
สมัยก่อนสักราว 20-30 ปีที่แล้ว การเดินทางมาเที่ยวเมืองหาดใหญ่ หรือ การเดินทางไปดูนางเงือกที่แหลมสมิหลา ต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถเมล์ โดยเฉพาะรถเมล์คันใหญ่ๆ สีเขียวๆ ของบริษัทโพธิ์ทอง คงกลายเป็นภาพจำติดตาของหลายๆคน ในยุคหนึ่งรถเมล์สายนี้เต็มไปด้วยผุ้คน อัดแน่นราวกับปลากระป๋องสามแม่ครัว ในราวเด็กๆและวัยรุ่นของอำเภอหาดใหญ่ที่ต้องไปเรียนที่สงขลา จะตื่นแต่เช้ามารอรถเมล์สายสีเขียวบริเวณหน้าหอนาฬิกาและหน้าโรงเรียนเทคนิคหาดใหญ่ ส่วนคนสงขลาที่ต้องมาเรียนหาดใหญ่ ก็จะไปยืนรอหน้าโรงพยาบาลสงขลา (เดิม) และหน้า สอ.
จุดขึ้นรถเมล์บริเวณหน้าหอนาฬิกา (คิดถึงจัง)
รถเมล์สายนี้วิ่งตั้งแต่หัวรุ่งและหมดราวๆ ทุ่มถึง2ทุ่ม เป็นรถเมล์ยี่ห้อเบนซ์ (อย่างหรูอ่ะ) สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 30 คน และที่สำคัญไม่ติดแอร์ แต่เดิมก่อนจะมาเป็นรถเมล์สีเขียว เคยเป็นสีเหลืองมาก่อนด้วยนะ
นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเป็นที่จดจำ เพราะหลายๆคน มีความทรงจำและความตื่นเต้น ในการรอรถเมล์และลุ้นว่ารถจะเต็มหรือไม่ รถจะมาถึงเมื่อไหร่ จะไปทำงานและไปเรียนทันรึป่าว เอาจริงๆทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนายหัวรถ (คนขับ) เท่านั้น พวกเราเป็นเพียงผู้โดยสาร ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ทั้งนั้น ถ้าอารมณ์ดีอาจถึงที่หมายช้า ถ้าอารมณ์เสียหรือแข่งกับรถอีกคัน คุณอาจถึงที่หมายได้เร็วกว่าเดิม แต่ไม่รับประกันความปลอดภัย กระเป๋ารถเมล์ส่งเสียงตะโกนเรียกลูกค้าอย่างเราๆ "ใหญ่มั๊ย ใหญ่มั๊ย" หมายถึงมึงจะไปหาดใหญ่มั๊ย คงเป็นเสียงที่พวกเราหลายๆ มักคุ้นหูคุ้นชินกันเป็นอย่างดี หรือคำพูดที่ว่า "2 ชิด 3" อันนี้ก็เป็นคำประจำตัวของพวกกระเป๋ารถเมล์ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ประจำรถเมล์โพธิ์ทองนั้นคือเครื่องเสียง จะฟังแนวไหนนายหัวจัดให้ได้ ในวัยหนุ่มสาวคงสนุกสนาน แต่วัยป้าแก่ๆเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้
แต่ปัจจุบันรถเมล์สีเขียว บริษัทโพธิ์ทอง สายหาดใหญ่-สงขลา กลายเป็นเพียงตำนานและคำบอกเล่า ที่หลงเหลือไว้เพียงความทรงจำสีจางๆ สำหรับใครหลายๆคนเท่านั้น ที่เหลือไว้คงจะเป็นรถเมล์คันสีแดง (หาดใหญ่-ปาดัง) เท่านั้น ซึ่งรถเมล์คัสายนีี้เอง ก็กำลังจะสูญพันธุ์ เนื่องจากกระแสความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจุบันคนหันมาใช้รถตู้สายเขียวบริษัทโพธิ์ทองในการเดินทาง (สงขลา-หาดใหญ่) อีกทั้งยังมีรถกระบะสองแถวของโพธิ์ทอง ซึ่งสามารถวิ่งได้ถึงที่หมายเร็วกว่ารถเมล์
ย้อนชมภูมิปัญญาการทำขวัญข้าว สู่การสร้างวงเวียนพระแม่โพสพ ศูนย์รวมจิตใจชาวระโนด
8 มิถุนายน 2568 | 305เปิดที่มาชุมชนประวัติศาสตร์ บ้านควนจง (นาหม่อม)
8 มิถุนายน 2568 | 326วิถีมุสลิมบ้านดอนขี้เหล็ก "ประเพณีการทูนพานอาหาร" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี
8 มิถุนายน 2568 | 382เปิดตำนาน...ที่มาชื่อบ้านบ่อแดง อ.สทิงพระ
25 พฤษภาคม 2568 | 871ของดีของหรอยท่าเลออก ตลาดริมทางของผู้สัญจรผ่าน ณ สามแยกบ่อทราย (ปากรอ)
25 พฤษภาคม 2568 | 3,132ตำนานทวดเข้...ทวดขุนดำ-ทวดแขนลาย แห่งสายน้ำคลองท่าม่วง อ.ควนเนียง
25 พฤษภาคม 2568 | 1,804ร่องรอยจากอดีต พิพิธภัณฑ์วัดท่าช้าง(บางกล่ำ)
18 พฤษภาคม 2568 | 738เจ้าบ่าวน้อยแห่งควนเขาสูง : วีรบุรุษชุมชนท้องถิ่น บ้านพรุเตาะ ต.ทุ่งใหญ่
18 พฤษภาคม 2568 | 1,636