เรื่องราวที่ทางหาดใหญ่โฟกัสอยากจะนำเสนอต่อไปนี้ อยากให้คุณผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อที่ชาวบ้านเชื่อกันตั้งแต่สมัยก่อนและยังคงเป็นเชื่อในปัจจุบันบางครอบครัวหรือบางหมู่บ้านเท่านั้น ชาวไทยเรามักจะมีความเชื่อเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตที่เกิดและสุดท้ายคือการตายนั่นหมายถึงการสิ้นชีวิตหรือการกลายเป็นศพความตายจึงเป็นช่วงสุดท้าของชีวิตและมักจะหาคำตอบให้กับตัวเองว่าเหตุใดจึงต้องตาย แล้วเมื่อตายแล้วจะไปไหนมนุษย์จึงสร้างความเชื่อไว้หลายอย่างเพื่อที่จะขจัดความกลัวเหล่านั้น
ได้มีความเชื่อดังนี้เชื่อโยงเข้าด้วยกันช่วงคนใกล้จะเสียชีวิตมักจะมีสิ่งบอกเหตุหลายอย่างสำหรับคนป่วย เช่นกินสั่งลา ธาตุไฟแตกเดินออกจากบ้านแล้วไม่เห็นเงาหัวของตัวเอง และในช่วงใกล้เสียชีวิตจะมีการบอกหนทางให้แก่ผู้ที่กำลังจะตายหากญาติเห็นว่าไม่มีทางรอดจะให้ระลึกถึงพระพุทธคุณ อรหัง หรือ พุทโธ นั่นคือการบอกให้ไปสู่ทางดี ๆ นี่เป็นเพียงเบื้องต้นก่อนการใกล้ตาย หาดใหญ่โฟกัสจึงมีความเชื่อต่าง ๆ มาฝากคุณผู้อ่านกัน โดยความเชื่อเหล่านี้คำบอกเล่าของชาวบ้านในตำบลคลองหรัง ตำบลทุ่งขมิ้น และตำบลพิจิต ในเขตอเภอนาหม่อม
1.ความเชื่อเกี่ยวกับความฝันและลางสังหรณ์ เชื่อว่าหากมีนกแสกมาเกาะที่หลังคาบ้านที่มีคนป่วยหรือบินผ่านพร้อมส่งเสียงร้องแสดงว่าคนป่วยใกล้ถึงกาลหมดอายุ เพราะเชื่อว่านกแสกเป็นพาหนะของพญายม
2.ความเชื่อที่เกี่ยวโยงกับศาสนา หากมีผู้ป่วยหนักญาติต้องไปปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า หรือไปซื้อสัตว์จำพวกที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่น โค กระบือ หมู ที่กำลังจะถูกฆ่าหากนำไปล่อยเชื่อว่าจะเป็นการต่ออายุให้แก่ผู้ป่วยได้
3.ความเชื่อที่เกี่ยวกับพิธีกรรม มีอยู่1พิธีนั่นคือการจำเริญอายุวิธีนี้จะใช้กับผู้ป่วยหนักที่มีโอกาสรอดน้อยญาติจะนิมนต์พระไปทำพิธีโดยจะนิมนต์พระ 5 รูป หรือมากกว่านี้แต่ต้องเป็นเลขคี่เท่านั้น และเมื่อพระเริ่มสวดถึงตรงที่ยะถา วาริวะหา ผู้ป่วยต้องกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับตัวเอง
4.ความเชื่อเกี่ยวกับคนตายในช่วงทำศพ เมื่อมีคนในครอบครัวเสียชีวิตแต่ไม่ได้ในบริเวณบ้านให้นำศพไปไว้วัด ไม่นิยมไว้จัดที่บ้าน เว้นแต่ผู้ตายสั่งเสียไว้ก่อนตาย และหากในบ้านมีคนตายจะต้องจุดประทัดจำนวน 3 แพ แล้วตามด้วยประทัดอีก 1 ลูก เพื่อเป็นการแจ้งให้เพื่อนบ้านในระแวกนี้ทราบว่ามีงานศพเกิดขึ้น
5.ความเชื่อว่าให้หันหัวศพไปทางทิศทางตะวันตก เพราะเชื่อว่าเป็นทิศของคนตายหรือหันไปยังทิศที่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่
6.ความเชื่อว่าการอาบน้ำให้ศพ เป็นการทำความสะอาดให้ศพเป็นครั้งสุดท้ายโดยการอาบน้ำร้อนก่อนและตามด้วยน้ำเย็นพร้อมทั้งนำน้ำมะพร้าวมาผสมด้วยจากนั้นจึงปะแป้งและพรมน้ำหอมให้ศพแล้วจึงแต่งตัวด้วยชุดใหม่หรือชุดที่ผู้ตายชอบใส่ บางบ้านจะแต่งให้กลับด้านกับคนที่มีชีวิตอยู่ คือสวมให้ด้านหน้าไปอยู่ด้านหลัง
7. ความเชื่อการหวีผมให้ศพ จะหวีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นและหวีในลักษณะทวนขึ้นหากหวีเรียบร้อยแล้วให้หักหวีแล้วใส่ลงไปในโล่งด้วย ขณะใส่ลงไปในโลงให้ท่องภาษาบาลีว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การหักหวีแล้วใส่ไปในโลงจึงหมายถึงการไม่นำของผู้ตายมาใช้เพระาถือว่าเป็นสิ่งอัปมงคล
8.ความเชื่อว่าห้ามแมวดำกระโดดข้ามโลงศพ เพราะเชื่อกันว่าแมวดำเป็นวิญญาณของผี หรือเป็นสัตว์ผีสิงจะทำให้ศพเฮี้ยนมาก
9.ความเชื่อว่าว่าในการบำเพ็ญกุศลศพ เจ้าภาพจะต้องจัดอาหารไว้หน้าศพอย่างน้อยวันละ 2 มื้อคือมื้อเช้าและมื้อเย็นนิยมวางไว้ด้านปลายเท้าศพพร้อมทั้งเคาะโลง 3 ครั้ง เพื่อบอกให้ศพรับประทานอาหาร หรือพูดง่าย ๆ คือเซ่นศพนั่นเอง
10.ความเชื่อในการหามศพ เวลาหามศพจะหามด้านปลายเท้าไปก่อนเพราะถ้าหันด้านหัวไปเชื่อว่าคนตายจะยังหวงของอยู่ และในขณะที่หามศพนั้นต้องมีการซัดข้าวสารด้วย เพราะเชื่อว่าผีจะไม่กลับมายุ่งกับคนอีก
11.ความเชื่อที่ว่าหากผู้ตายเป็นสามีและภรรยากัน หากฝ่ายไหนตายก่อนจะต้องเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในโลงเพือไม่ให้สามีเก่าภรรยาเก่ากลับมาหาในภายหลัง
12.ความเชื่อที่ว่าห้ามเลี้ยงแขกที่มางานด้วยขนมที่เป็นเส้น จำพวกขนมจีนเพราะเชื่อว่าจะมีคนตายอย่างไม่ต่อเนื่องเหมือนขนมเป็นเส้นเหล่านั้น
13.ความเชื่อว่าถ้าเราเผาศพและศพนั้นเป็นศพที่จัดไว้ที่บ้าน เชื่อว่าหากเผาเสร็จศพจะกลับไปที่บ้านโดยให้ลองนำเสื่อมาปูและเอาผ้ามาวางอีกชั้นนึงและโรยด้วยแป้ง และหากในตอนเช้าสังเกตเห็นลักษณะของแป้งผิดปกติ กระเจิงกระจายแสดงว่าเมื่อคืนวิญญาณของผู้ตายมานอนที่บ้าน แต่ถ้าหากผงแป้งเป็นปกติแสดงว่าวิญญาณผู้ตายได้เดินทางไปอยู่ที่อื่นแล้ว
14.ความเชื่อที่ว่าหากเก้บกระดูกศพแล้ว ต้องนำกระดูกมาวางในลักษณะปกติ เช่น กระดูกศรีษะวางไว้ทางหัว ซึ่งการจัดวางในลักษณะนี้เรียกว่า การดับธาตุเป้นการสมมุติว่าตาย และหลังจากที่พระสงฆ์ซักผ้าบังสกุลแล้ว ก็จะกลับแปรเผาถ่านใหม่คือกลับหัวไปทางทิศตะวันออกเรียกว่า หลบธาตุ เป็นการสมมุติการเกิดนั่นเอง
15.ความเชื่อที่ว่าหากเราจะเก็บกระดูกไว้ ให้เลือกเอาส่วนที่สำคัญ ชำระล้างให้สะอาดและตากให้แห้ง ประพรมน้ำหอมน้ำอบห่อใส่ผ้าขาวหรือเก็บในโกศเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนที่เหลือจึงนำไปลอยอังคารในทะเลใหญ่เพราะเชื่อว่าแม่คงคาจะนำไปสู่สรวงสวรรค์ได้
เรื่องราวทั้งหมดที่ได้นำเสนอไปเป็นเพียงความเชื่อของบ้านในระแวกนี้หรือที่อื่น ๆหากคุณผู้อ่านเองมีความเชื่อนอกเหนือจากนี้สามารถแลกเปลี่ยนและพูดคุยกันได้ ความเชื่อทั้งหมดจึงเป็นการบันทึกเรื่องราวผ่านคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนของและคนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
กัปตันวอสเบียน : ผู้ให้กำเนิดจักรยานพ่วงข้างคันแรกของปักษ์ใต้ ณ เชิงเขาตังกวน (สงขลา)
6 กรกฎาคม 2568 | 1,693ที่มาชื่อบ้านท่าช้าง อ.บางกล่ำ ย้อนรอยชม "เสาหงส์" ครั้งพม่ายกทัพตีหัวเมืองภาคใต้
6 กรกฎาคม 2568 | 288ย้อนตำนานเมื่อครั้งอดีต วงเวียนแยกหลาลุงแสง 3 ยุคสมัย 3 รูปแบบ
6 กรกฎาคม 2568 | 5,181ย้อนชมภูมิปัญญาการทำขวัญข้าว สู่การสร้างวงเวียนพระแม่โพสพ ศูนย์รวมจิตใจชาวระโนด
8 มิถุนายน 2568 | 1,096เปิดที่มาชุมชนประวัติศาสตร์ บ้านควนจง (นาหม่อม)
8 มิถุนายน 2568 | 1,224วิถีมุสลิมบ้านดอนขี้เหล็ก "ประเพณีการทูนพานอาหาร" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี
8 มิถุนายน 2568 | 1,072เปิดตำนาน...ที่มาชื่อบ้านบ่อแดง อ.สทิงพระ
25 พฤษภาคม 2568 | 1,584ของดีของหรอยท่าเลออก ตลาดริมทางของผู้สัญจรผ่าน ณ สามแยกบ่อทราย (ปากรอ)
25 พฤษภาคม 2568 | 3,830