วันที่ 27 ตุลาคม 2565จากกรณี มีนักธุรกิจชาวมาเลเซียพร้อมด้วยทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความกับกลุ่มคนที่อ้างตัวเป็นตำรวจ เข้าจับกุมตนที่บ้านพักตอนตนเองนั่งสูบบารากุ ต่อหน้าลูกและภรรยา แต่ตนได้กระโดดหนีลงจากรถได้ เนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นใคร และไม่มีการแแสดงบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นช่วงค่ำของวันที่ 19 ต.ค. 65 ซึ่งหลังจากกลุ่มชายดังกล่าวเอาตัวตนเองไป ภรรยาก็ได้ติดต่อไปที่ สภ.สะเดา สอบถามว่าสามีถูกจับมา แต่สุดท้ายแล้ว วันนั้นไม่มีใครรู้เรื่องเลย จนมาทราบกับสามีว่า สามีได้กระโดดลงจากรถ หนีมาได้ หลังจากนั้นก็ให้เพื่อนชาวมาเลข่มขู่ว่าอย่าเอาเรื่องกับชายกลุ่มดังกล่าว เพราะเดี่ยวจะทำให้ชาวมาเลเซียที่ทำธุรกิจใน อ.สะเดา จะลำบากไปด้วย แต่ตนกลัวความปลอดภัย จึงได้ติดต่อทนาย และมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มชายดังกล่าว พร้อมด้วยภาพกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานเหตุการณ์ทั้งหมด
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด จะเห็นได้ว่า มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งมาจอดหน้าบ้าน และมีชายสองคนเดินลงมาจากรถ มีการพูดคุยกันสักพัก ชายทั้งสองคนก็คุมตัวผู้เสียหายขึ้นรถไปต่อหน้าลูกและภรรยาโดยลูกของผู้เสียหายร้องไห้ตลอดเวลา
ล่าสุด พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ. กิตติชัย สังข์ถาวร รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.ตม 6 ได้เดินทางมา ที่สภ.สะเดา เพื่อติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง คดีที่ นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือ ทนายอาร์ม และ นายอับดุลกานี บิน อับดุลมานัพ อายุ 29 ปีพร้อมภรรยาชาวไทย ที่อ้างว่าเป็นนักธุรกิจโดนตำรวจกระทำโดยมิชอบเข้าแจ้งความกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอุ้ม กักขังหน่วงเหนี่ยวและมีการเรียกเงิน
พ.ต.อ.บันเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.สะเดา และพ.ต.ท.เดชา เลิศเดชานนท์ รองผกก. สอบสวน สภ.สะเดา พ.ต.ต.ดำรงเกียรติ แก้วขาว สว.สอบสวน สภ.สะเดา ได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายรวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากคดีนี้เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ถูกกล่าวหาในกรณีที่มีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆนำส่งไปยัง ป.ป.ชจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินการ
ทางด้าน พ.ต.อ.บันเทิง เหล่าเจริญ ผกก. สภสะเดาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจที่ถูกกล่าวหาได้มาแสดงตัว ได้ให้ข้อเท็จจริง ว่ามาปฏิบัติหน้าที่จับกุมชาวมาเลย์กำลังดูดบารากู่อยู่หน้าบ้าน เพื่อทำบันทึกการจับกุมที่ที่สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวถนนกาญจนวนิชไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ส่วนผู้เสียหายอาศัยจังหวะที่เผลอกระโดดจากท้ายรถกระบะหลบหนี พร้อมได้ร้องเรียนนายพงศธรสุวรรณรักษาจึงนำตัวมาแจ้งความและตำรวจได้ตรวจสอบข้อเท็จริงบรวมหลักฐาน ไว้หมดแล้วในขณะเดียวกันทางตำรวจผู้ที่ถูกกล่าวหา 2 นาย
ซึ่งเป็นตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจสืบ ตรวจคนเข้าเมือง 6 ได้มาแสดงตัวและได้เปิดบัญชีโดยถูกต้องพร้อมได้มอบหลักฐานเป็นเครืีองบารากู่ใหม่เอี่ยม 1ขิ้นซึ่งนำเข้ามาในประเทศไทย พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมทั้ง 2ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาและผู้เสียหาย และทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ถ้าหากชาวมาเลย์เซีย เดินทางมาประเทศไทยมาทำธุรกิจอะไร ผู้กำกับสภบอกว่ากำลังตรวจสอบอยู่ ทราบว่าธุรกิจในเมืองไทยไม่มีแต่ในมาเลเซียยังไม่ทราบ เบื้องต้นหากชาวมาเลย์มาทำธุรกิจโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้ทำ work permit ก็มีความผิดถึงขั้นเนรเทศ แต่ชาวมาเลย์ที่เดินทางมามีภรรยาเป็นคนไทย มาในฐานะนักท่องเที่ยวซึ่งมองจากคลิปแล้วไม่ได้เป็นการอุ้มหรือบังคับขู่เข็ญแต่การประการใดเป็นการเชิญให้ขึ้นรถเพื่อไปทำบันทึกการจับกลุ่ม
ทาง พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา เปิดเผยว่า พี่น้องสื่อมวลชนตามที่เราทราบ เรื่องที่สื่อและสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวเจ้าหน้าที่ของรัฐ อุ้มเรียกเงินนักธุรกิจ แลกกับการปล่อยอิสรภาพ เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 19 แล้ว ทั้งนีเมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.สะเดา ทางตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว ส่วนการที่ผู้ต้องหามาแจ้งว่าถูกอุ้มหรือถูกทำร้ายหรือเรียกเงินก็แล้วแต่เรามีคลิปและพยานหลักฐานสามารถตรวจสอบได้ ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรมีใครผิดใครถูก
ส่วนการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบไปควบคุมตัวชาวมาเลย์ดังกล่าวเนื่องจากว่าเป็นกระทำผิดข้างหน้าซึ่งหน้า เรามีสายข่าวว่าจุดนี้มีการมั่วสุมยาเสพติดก็สามารถกระทำได้ โดยไม่ต้องแต่งเครื่องแบบ ส่วนทางฝั่งของเจ้าหน้าที่เราได้เรียกมาสอบปากคำแล้ว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเช่นคลิปวงจรปิดตรวจสอบอย่างละเอียดรวมทั้งบารากู่ที่ใช้ในการกระทำความผิดร และพยานหลักฐานส่งเรื่องให้ ปปช.ดำเนินการ
ส่วนการที่ผู้เสียหายมาแจ้งว่า ตำรวจมีการเรียกเงินแต่ข้อเท็จจริงไม่ได้เรียกทรัพย์ เจ้าที่เป็นผู้เสียหายก็สามารถมาดำเนินคดีแจ้งความกล่าวโทษผู้ที่กลับบ้านไปรับธุรกิจหรือผู้ที่มาร้องได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า การมีบารากู่ภายในครอบครองเป็นความผิดกฎหมายหรือไม่ ผู้การสงขลาตอบว่าผิดกฎหมายชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่กล่าวว่างนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันนักธุรกิจสร้างความเสียหายให้กับพระพจน์ของการท่องเที่ยวเรื่องนี้เสียหายหรือไม่ผู้การสงขลาตอบว่าเรื่องนี้เป็นการเป็นการกล่าวอ้างแล้วแต่เขาให้การ การที่เขาบอกถ้าไม่มีผู้เสียหายก็ไม่เป็นไร การจัดตั้งเป็นนักธุรกิจทำให้เขาดูดี แต่ทั้งนี้การการรับเป็นนักธุรกิจดู ก็เป็นการกล่าวอ้างของเขาแต่เราไม่ได้บอกว่าเป็นเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย
สะเดา | พร้อมเปิดใช้งาน! เสร็จสมบูรณ์สามแยกทางหลวงหมายเลข 4 -
2 พฤษภาคม 2567 | 3,587สงขลา | เคลื่อนย้ายสัตว์น้ำภายในอควาเรียม
2 พฤษภาคม 2567 | 4,506รัตภูมิ | พบโรคลำต้นเน่าปาล์มน้ำมัน และหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน จำนวนมาก
2 พฤษภาคม 2567 | 3,511สงขลา | ตรวจติดตามข้อมูลปริมาณนมโคที่ใช้ในโครงการอาหารเสริม (นม)
2 พฤษภาคม 2567 | 3,122สงขลา | คึกคักรับวันแรงงาน!
1 พฤษภาคม 2567 | 4,080หาดใหญ่ | ผ่อนผันจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ถนนมนตรี 1 ข้างลานจัตุรัส
1 พฤษภาคม 2567 | 4,527สงขลา | เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์
1 พฤษภาคม 2567 | 4,645หาดใหญ่ | ล่าสุดความเสียหายจากทัวร์ลอยแพ จำนวน 12 ล้านบาท
1 พฤษภาคม 2567 | 6,886